หลายคนอาจจะไม่เคยได้ยินเรื่อง ความเศร้า ฤดูหนาว อากาศเปลี่ยนไปตามความรู้สึก ไม่ใช่เพียงคำพูด แต่มีวิจัยว่าฤดูต่างๆ สามารถทำให้คนเกิดภาวะซึมเศร้าได้ แม้แต่ในช่วงฝนตกหนัก
ฤดูผนและฤดูหนาวอาจทำให้รู้สึกหดหู่ วิตกกังวลซึมเศร้า หงุดหงิดง่าย วันนี้เราจะมาขยายเรื่องราวของโรคซึมเศร้าตามฤดูกาลให้ทุกคนเข้าใจกัน
โรคซึมเศร้าตามฤดูกาลที่หลายคนไม่เคยรู้
โรคซึมเศร้าตามฤดูกาล คืออะไร Seasonal Affective Disorder
โรคซึมเศร้าตามฤดูกาล (Seasonal Affective Disorder : S.A.D) เป็นภาวะทางอารมณ์ชนิดหนึ่งที่มักเกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกันของแต่ละปี
โดยส่วนใหญ่มักเกิดอาการขึ้นในฤดูหนาว หรือช่วงเวลาที่กลางคืนยาวนานกว่ากลางวัน อาจมีอาการต่างๆ ได้แก่ซึมเศร้า เหนื่อยล้าและแยกตัวจากสังคม
แม้ว่าอาการต่างๆ มักจะหายไปภายในไม่กี่เดือน แต่ก็อาจส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อความรู้สึกและการใช้ชีวิตของบุคคลนั้นๆ เมื่ออารมณ์เริ่มเข้าสู่สภาวะแย่ลงจนส่งผลเสียกับการใช้ชีวิต ควรรีบประมาณสุขภาพจิตเพื่อตรวจสอบภาวะความเครียดตัวเองก่อนที่จะเข้าสู่ภาวะโรคซึมเศร้า
อาการเริ่มต้นของโรคซึมเศร้าตามฤดูกาล มีอะไรบ้าง
- รู้สึกหมดหวัง ไร้ค่า รู้สึกซึมเศร้าต่อเนื่องเป็นเวลานาน
- หมดความสนใจในสิ่งที่ตนเองเคยสนใจ เช่น ไม่อยากทำงานที่ชอบ
- อ่อนเพลีย ไม่มีเแรงในการดำเนินชีวิตประจำวัน หมดความกระตือรือร้นในสิ่งต่างๆ
- นอนเยอะ หรือมีปัญหาการนอนเช่น กระสับกระส่าย นอนไม่หลับ นอนหลับไม่สนิท
- มีพฤติกรรมการรับประทานอาหารที่เปลี่ยนไป เช่น รับประทานอาหารมากเกินไป หรืออยากรับประทานอาหารจำพวกแป้งและน้ำตาลมากกว่าปกติ เป็นต้น
- ไม่มีสมาธิ
- เก็บตัว ไม่ออกไปพบปะผู้อื่น
- หมกมุ่น เริ่มมีความคิดเรื่องการฆ่าตัวตาย
สาเหตุการเกิดภาวะซึมเศร้า
สาเหตุของภาวะซึมเศร้าจากการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาลอาจเกิดขึ้นเนื่องจากสัมพันธภาพระหว่างสภาวะของสภาพแวดล้อมกับร่างกายของบุคคลที่เปลี่ยนแปลงไป
รวมถึงสภาพอากาศที่มีผลต่ออารมณ์และอารมณ์ของบุคคลได้ การปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาลอาจทำให้บุคคลรู้สึกไม่สบายหรือหดหู่มากขึ้น
โดยเฉพาะในฤดูกาลที่มีแสงแดดน้อยลง ซึ่งสามารถเพิ่มความเครียดและอารมณ์เศร้าในบางบุคคลได้
SAD พบได้ในทุกเพศทุกวัย แต่ส่วนมากเกิดในผู้หญิง
ภาวะซึมเศร้าจะหายไปได้อย่างไร วิธีการดูแลสุขภาพใจในช่วงอากาศเปลี่ยนแปลง
- พยายามหากิจกรรมที่ชื่นชอบหรือมีการเคลื่อนไหวของร่างกายเพิ่มขึ้นทำ เช่น ทำสวนครัว ทำงานบ้าน เล่นดนตรี อ่านหนังสือ ดูทีวี วาดรูป ฯลฯ
- หาโอกาสออกไปเดินเล่น ในวันที่มีอากาศแจ่มใส ท้องฟ้าปลอดโปร่ง เพื่อให้ได้ร่างกายสัมผัสกับแสงแดดอ่อนๆ บ้างเพราะมีผลงานวิจัยที่ชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนว่าการได้สัมผัสกับแสงสว่างมีความสัมพันธ์และระดับเซโรโทนินในร่างกาย
- ออกกำลังกาย ข้อมูลจากงานวิจัยที่เชื่อถือได้จากประเทศอังกฤษแสดงให้เห็นว่าการออกกำลังกายเป็นประจำอาจอย่างต่อเนื่องช่วยเรื่องอาการซึมเศร้าได้ ควรมีการออกกำลังกายอย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน สัปดาห์ละ 3-5 วัน ถ้าไม่เคยออกกำลังกายมาก่อน อาจเริ่มจากกิจกรรมที่ทำเป็นประจำอยู่แล้วให้มีการออกแรงเพิ่มมากขึ้น เช่น การเดินทางไปทำงานด้วยการเดินหรือขี่จักรยาน
- พยายามเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ บ้าง เพื่อให้ได้มีโอกาสพูดคุยกับเพื่อนหรือครอบครัว
- ทำความเข้าใจและยอมรับต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพดินฟ้าอากาศว่าเป็นแค่เพียงปรากฏการณ์อย่างหนึ่งที่ผ่านมาแล้วผ่านไปไม่แน่นอน ประคองใจให้มีสติอยู่กับกิจกรรมต่างๆในชีวิตประจำวันอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เนื่องจากการนอนไม่หลับอย่างต่อเนื่องจะมีผลต่อคุณภาพชีวิตและการเกิดภาวะซึมเศร้า พยายามฝึกนิสัยการนอนที่ดี โดยก่อนนอนควรปิดอุปกรณ์เครื่องมือสื่อสารต่าง ๆ ฝึกผ่อนคลายตัวเองด้วยเทคนิคต่างๆ เช่น การฝึกสมาธิ การฝึกหายใจคลายเครียด การผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ฯลฯ
- หมั่นสังเกตอาการ การเปลี่ยนแปลงของตนเองถ้ารู้สึกว่าอารมณ์แปรปรวนและเป็นทุกข์มากโดยไม่สามารถทำให้ตัวเองมีความสุขขึ้นมาได้ ควรรีบขอความช่วยเหลือจากคนใกล้ชิดหรือไปพบผู้เชี่ยวชาญ เพื่อจะได้รับการดูแลและรักษาอย่างเหมาะสมต่อไป
หลายๆ คนไม่รู้จักโรคซึมเศร้าตามฤดูกาล บทความนี้อาจจะทำให้หลายๆ คนเข้าใจถึงพฤติกรรมเหล่านี้ เพื่อสังเกตพฤติกรรมตนเองและผู้อื่น เพื่อช่วยเหลือได้ทันท่วงทีก่อนเกิดเหตุร้ายที่เราไม่คาดคิด
บำบัดจิตที่ Psychotherapy Center
การเข้ารับคำปรึกษา บำบัดจิตที่ Psychotherapy Center เป็นการเลือกที่ดีเนื่องจากมีเรามีนักบำบัดที่มากด้วยคุณภาพและประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญของนักจิตบำบัด สามารถให้บริการการรักษาที่เหมาะสมแต่ละบุคคลได้อย่างเป็นอย่างดี
โดยมีเทคนิคและวิธีการพูดคุยที่ช่วยให้ผู้รับการรักษาสามารถแก้ไขปัญหาที่พบอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังมีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมและเชิงบวกที่สามารถสร้างความสบายใจและความมั่นใจให้กับผู้รับการรักษา
Psychotherapy Center เป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือและการสนับสนุนในด้านสุขภาพจิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นในชีวิตประจำวันของตน